กับทายืนและ ระดับความสูงต่ําในการกระดอนของลูกที่จะตีการจับไมที่เหมาะสมกับลูกที่
จะตีจะชวยใหสามารถควบคุมหนาไมในจังหวะกระทบลูกไดดี ทําใหการตีมีความ
รุนแรง แมนยํา และมีประสิทธิภาพ การจับไมเทนนิสมีวิธีการจับที่นิยม 5 แบบคือ
1. การจับแบบคอนติเนนตัลกริ๊ป
2. การจับแบบอีสเทิรนกริ๊ป
3. การจับแบบเวสเทิรนกรปิ๊
4. การจับแบบเซมิเวสเทิรนกริ๊ปป
5. การจับแบบแบ็คแฮนดสองมือ
คําแนะนําวิธีการจับไมแบบตางๆ
1. การจับไมแบบคอนติเนนตัล (Continental Grip)
การจับไมลักษณะนี้เหมาะสําหรับตีลูกที่กระดอนต่ํา สามารถตีลูกไดทุกสโตรค
โดยที่ไมตองเปลี่ยนกริ๊ปหรือการจับไม อาจเรียกชื่ออีกอยางหนึ่งวา “Hammer Grip”
เนื่องจากการจับไมมีลักษณะเชนเดียวกับการจับคอนตีตะปูการจับไมแบบนี้ สวนมากจะ
ใชเปนกริ๊ปหลักในการเสิรฟและการตีลูกวอลเลยรวมทั้งการตีลูกกราวดสโตรคใน
ลักษณะตีลูกสไลซโดยเฉพาะการตีลูกแบ็คแฮนดสไลซ ซึ่งเปนลูกที่ธรรมชาติของหนาไม
จะเปดหรือหงายขึ้น
วิธีการจับไมแบบคอนติเนนตัล จับไมโดยใหกระดูกโคนนิ้วชี้วางอยูบนสันของ
ดามไมดานหมายเลข 2
ภาพประกอบการจับไมแบบคอนติเนนตัลกริ๊ปุ
2. การจับไมแบบอีสเทิรน (Eastern Grip) แบงเปน 2 ลักษณะ ดังนี้2.1 การจับไมแบบอีสเทิรนโฟรแฮนดกริ๊ป (Eastern Forehand Grip)
การจับไมแบบนี้เหมาะสําหรับผูที่เริ่มฝกตีลูกโฟรแฮนดเพราะหนาไมจะสัมผัส
ลูกในลักษณะตั้งฉากกับพื้น ทําใหไดความรูสึกที่ดีในการตีลูก อีกทั้งทางเดินของไมหรือ
วงสวิงจะมีลักษณะดันฝามือไปขางหนาตรงๆ ทําใหงายตอการตีและควบคุมลูก ซึ่งลูกที่
ถูกตีออกไปจะเปนลูกแฟลต
วิธีการจับไมแบบอีสเทิรนโฟรแฮนด จับไมโดยใชกระดูกโคนนิ้วชี้ของมือที่จับ
ไมวางอยูบนสันของดามไมดานหมายเลข 3 (สันที่ตอจากสันหมายเลข 2) หรืออีกวิธีหนึ่ง
คือใชมือซายจับที่คอไมโดยใหหนาไมตั้งฉากกับพื้น หัวไมชี้ไปดานหนา ใชฝามือแตะที่
หนาไมแลวคอยๆเลื่อนมือมาจับที่ดามไม กริ๊ปที่ไดจะเปน กริ๊ปอีสเทิรนโฟรแฮนด
ภาพการตรวจสอบการจับไมแบบอีสเทิรนโฟรแฮนด
แบบนี้ใชสําหรับในการตีลูกแบ็คแฮนดมือเดียว เนื่องจากหนาไมจะตั้งฉากกับพื้นบริเวณ
จุดกระทบลูก ที่สําคัญการจับไมลักษณะนี้จะทําใหขอมือมีความมั่นคงในการตีลูก ซึ่งจะ
ชวยใหผูเลนสามารถตีลูกแบ็คแฮนดไดอยางมีประสิทธิภาพ
วิธีการจับไมแบบอีสเทิรนแบ็คแฮนดกริ๊ป ใหผเลู นใชมือซายจับที่คอไม แลว
ยื่นออกไปหนาลําตัวบริเวณจุดกระทบบอล โดยใหหนาไมขนานตาขาย แลวเหยียดมือขวา
ไปจับที่ดามไมโดยใหโคนกระดูกนิ้วชี้มือขวาทาบอยูบนสันไมหมายเลข 1ทักษะพื้นฐานในการเลนเทนนิส 11
ภาพการจับไมแบบอีสเทิรนแบ็คแฮนดกริ๊ป
ไมชูขึ้นเหนือศีรษะโดยใหหนาไมขนานกับพื้น ดามไมชี้ไปทางดานขาง และนํามือที่จะใช
จับไมยกขึ้นไปจับบริเวณดามไมกริ๊ปที่ไดจะเปนอีสเทิรนแบ็คแฮนดกริ๊ป
3. การจับไมแบบเวสเทิรนกริ๊ป (Western grip)
การจับไมแบบนี้จะใชในการตีลูกคอนขางสูงดานโฟรแฮนด ลักษณะการถือไม
จะคลายกับการแบกไม หนาไมจะมีลักษณะปด (คว่ําลง) ลูกที่ถูกตีออกไปจะเกิดการ
หมุนมาก นักกีฬาที่จับไมลักษณะนี้สวนใหญจะเปนนักกีฬาที่เลนบนคอรตดิน ซึ่งการ
กระดอนของลูกคอนขางสูงการจับไมแบบนี้จะตีลูกต่ําไดยากและตองใชแรงจากแขนและ
ขอมือในการตีมาก ซึ่งอาจทําใหผูเลนเกิดการบาดเจ็บไดงาย ในที่นี้จะเพียงแนะนําถึง
วิธีการจับไมใหทราบ
วิธีการจับไมจับไมโดยใหกระดูกโคนนิ้วชี้ขวา วางทาบอยูบนสันของดามไมดาน
หมายเลข 5 (ตอจากสันหมายเลข 4) หรืออีกวิธีใชมือซายถือไมในลักษณะใหหนาไม
ขนานกับพื้น เหยียดแขนขวาลงโดยใหนิ้วมือชี้ลงพื้นและใหนําฝามือบริเวณโคนกระดูก
นิ้วชี้มาทาบกับไมบริเวณสันดานขางของไมแลวจับไม กริ๊ปที่ไดจะเปนกริ๊ปเวสเทิรน 12 ทักษะพื้นฐานในการเลนเทนนิส
ภาพการจับไมแบบเวสเทิรนกริ๊ป
ภาพการจับไมแบบเซมิเวสเทิรน
การจับไมแบบนี้เปนแบบที่นิยมมากในปจจุบัน เนื่องจากสามารถตีลูกไดทั้งลูก
สูงและต่ํา ลูกที่ตีออกไปจะมีทั้งความแรงและสปน ทําใหสามารถควบคุมลูกไดงายทักษะพื้นฐานในการเลนเทนนิส 13
รวมทั้งสามารถยืนตีในลักษณะแบบเปดไดทําใหสามารถตีลูกไดเร็วขึ้น โดยเฉพาะการตี
โตลูกเสิรฟ
วิธีการจับไม การจับไมแบบนี้ จะจับอยูกึ่งกลางระหวาง การจับไมแบบอีส
เทิรนโฟรแฮนดและ เวสเทิรนกริ๊ปคือจับโดยใหกระดูกโคนนิ้วชี้สัมผัสอยูบนสันหมายเลข
4 (ตอจากสันหมายเลข 3) ของดามไม
ภาพการจับไมแบบเซมิเวสเทิรนกริ๊ป
การจับไมแบบแบ็คแฮนดสองมือ จะชวยใหผูเลนมีความมั่นคงในการตีลูก
เนื่องจากจะไดแรงจากมือ แขนทั้งสองขางและลําตัวชวย ทําใหสามารถควบคุมลูกไดดี
ตีลูกไดรุนแรงและแนนอนขึ้น อีกทั้งยังชวยลดความเมื่อยลา สําหรับผูที่แขนยังไมแข็งแรง
เพียงพอ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่เริ่มเลนเทนนิส สวนมากการตีลูกดวยสองมือจะนิยมใช
สําหรับตีลูกทางดานแบ็คแฮนด
ภาพการจับไมแบบแบคแฮนดสอง
การจับไมแบบแบ็คแฮนดสองมือ โดยปกติมือหลักที่ใชในการจับไมคือมือซาย
โดยจับแบบอีสเทิรนกริ๊ป (สําหรับผูเลนที่ถนัดมือขวา) มือขวาอาจจับไดหลายลักษณะซึ่ง
มีขอดีแตกตางกันไป เชน มือขวาจับแบบคอนติเนนตัลกริ๊ป หรือมือขวาจับแบบอีสเทิรน
โฟรแฮนดกริ๊ป
ขอขอบคุณณุปภาพจาก sarawutd99.blogspot.com
news.vcharkarn.com 2
www.pyramidtennis.com
blog.sina.com.cn
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น